ตู้แช่ Inverter ประหยัดไฟ

ตู้แช่ Inverter เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็นและลดการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับตู้แช่แบบธรรมดา ระบบ Inverter ช่วยให้การควบคุมอุณหภูมิภายในตู้แช่เป็นไปอย่างแม่นยำและเสถียรมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสดใหม่ของอาหารและเครื่องดื่ม

หลักการทำงานของตู้แช่ Inverter

ตู้แช่ Inverter ทำงานโดยการควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ผ่านการปรับความเร็วรอบของมอเตอร์ตามความต้องการในการทำความเย็น ระบบนี้ช่วยให้ตู้แช่สามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีความต้องการ และปรับลดการทำงานลงเมื่ออุณหภูมิภายในตู้แช่อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากตู้แช่แบบธรรมดาที่คอมเพรสเซอร์จะทำงานในความเร็วคงที่เสมอไม่ว่าจะมีความต้องการมากน้อยเพียงใด

ตู้แช่ inverter ต่างจากตู้แช่ทั่วไปอย่างไร

1. การทำงานของคอมเพรสเซอร์

• ตู้แช่ Inverter: คอมเพรสเซอร์ของตู้แช่ Inverter สามารถปรับความเร็วในการทำงานได้ตามความต้องการในการทำความเย็น คอมเพรสเซอร์จะทำงานเร็วขึ้นเมื่ออุณหภูมิภายในตู้สูงขึ้น (เช่น เมื่อเปิดตู้บ่อยๆ) และจะลดความเร็วลงเมื่ออุณหภูมิภายในตู้คงที่และไม่ต้องการความเย็นมาก ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา
• ตู้แช่ทั่วไป: คอมเพรสเซอร์ของตู้แช่ทั่วไปจะทำงานแบบเปิด-ปิดตามการควบคุมของเทอร์โมสตัท เมื่ออุณหภูมิภายในตู้สูงขึ้นถึงระดับที่ตั้งไว้ คอมเพรสเซอร์จะเปิดทำงานเต็มที่จนกว่าอุณหภูมิจะลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ จากนั้นคอมเพรสเซอร์จะหยุดทำงาน ทำให้เกิดการสลับการทำงานระหว่างการเปิด-ปิดอย่างต่อเนื่อง

2. การประหยัดพลังงาน

• ตู้แช่ Inverter: เนื่องจากคอมเพรสเซอร์สามารถปรับความเร็วได้ตามความต้องการ ทำให้ใช้พลังงานน้อยลงในช่วงที่ไม่ต้องการความเย็นมาก จึงประหยัดพลังงานได้มากกว่าและช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
• ตู้แช่ทั่วไป: คอมเพรสเซอร์จะทำงานเต็มที่ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน ซึ่งใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ Inverter และอาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

3. การควบคุมอุณหภูมิ

• ตู้แช่ Inverter: สามารถรักษาอุณหภูมิภายในตู้ให้คงที่และเสถียรกว่า เนื่องจากคอมเพรสเซอร์ทำงานอย่างต่อเนื่องแต่ปรับความเร็วตามความจำเป็น ทำให้อุณหภูมิภายในตู้มีความผันผวนน้อยกว่า
• ตู้แช่ทั่วไป: อุณหภูมิภายในตู้จะมีความผันผวนมากกว่า เนื่องจากคอมเพรสเซอร์ทำงานเป็นช่วงๆ แบบเปิด-ปิด ทำให้อาจมีบางช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้นหรือต่ำลงอย่างรวดเร็ว

4. เสียงรบกวน

• ตู้แช่ Inverter: เนื่องจากคอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานเต็มที่ตลอดเวลา เสียงที่เกิดจากการทำงานของตู้แช่ Inverter จึงเงียบกว่า และลดการรบกวนในสภาพแวดล้อมภายในบ้าน
• ตู้แช่ทั่วไป: เมื่อคอมเพรสเซอร์เปิดทำงาน เสียงจะดังมากขึ้นในช่วงที่คอมเพรสเซอร์ทำงานเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนในบริเวณที่ติดตั้งตู้แช่

5. ความทนทานและอายุการใช้งาน

• ตู้แช่ Inverter: ด้วยการทำงานที่ราบรื่นและไม่หนักเกินไป ระบบ Inverter ช่วยลดการสึกหรอของคอมเพรสเซอร์ ทำให้อายุการใช้งานของตู้แช่ยาวนานขึ้น
• ตู้แช่ทั่วไป: คอมเพรสเซอร์อาจสึกหรอเร็วขึ้นเนื่องจากการทำงานแบบเปิด-ปิดบ่อยๆ ซึ่งอาจลดอายุการใช้งานของตู้แช่

สรุป

ตู้แช่ Inverter มีความเหนือกว่าตู้แช่ทั่วไปในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของการประหยัดพลังงาน การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และการทำงานที่เงียบกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการตู้แช่ที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่าในระยะยาว

วิธีเลือกซื้อตู้แช่

ตู้แช่นั้นมีอยู่มากคุณสมบัติที่หลากหลาย การออกแบบตู้แช่หลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้งาน การที่เราจะซื้อตู้แช่ให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานและฟังก์ชันที่ครบ ควรคำนึงก่อนการเลือกซื้อ ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อตู้แช่ ควรพิจารณาดังนี้

1. ฟังก์ชันที่จำเป็น : ตรวจสอบและดูวิธีการใช้งานของเราก่อน ว่าเราต้องการอุณหภูมิเท่าไหร่​? ฟังก์ชันอะไรที่จำเป็น หรือไม่จำเป็นบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานสินค้ามากที่สุด
2. ขนาด : ถือเป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน เราควรจะวัดขนาดสถานที่ที่ต้องการติดตั้งสินค้าก่อน โดยควรจะเหลือที่ว่างรอบสินค้าไปอีกอย่างน้อย 15 เซนติเมตร รอบด้าน
3. ดูสินค้าจริง : FRESHER เข้าใจดีว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อตู้แช่ไปเพื่อประกอบธุรกิจ ดังนั้นเราสนับสนุนให้มาชมสินค้าจริงก่อนตัดสินใจ โดยสามารถมาชมสินค้าจริงที่ “ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ” หรือ “showroom FRESHER” ได้เช่นกัน