– ตู้แช่ No Frost คือตู้แช่แข็งที่ “ไร้น้ำแข็งเกาะผนังรอบตู้” 100%
ระบบ No Frost ของ FRESHER จะดูดความชื้นอันเป็นต้นเหตุของน้ำแข็งเกาะ ออกไประบายข้างนอก
เนื่องจากว่าน้ำแข็งเกาะผนังรอบตู้ นอกจากจะทำให้เกิดสิ่งสกปรก และลดพื้นที่ภายในตู้แล้ว ยังทำให้ตู้ทำงานหนักมากขึ้น
เพื่อให้ไปถึงอุณหภูมิที่เราต้องการ ค่าไฟก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ใครบอกว่าเพิ่มระบบแล้วใช้ไฟมากกว่า? ตู้แช่ No Frost กลับประหยัดไฟมากกว่าตู้แช่ทั่วไป 30% !!
และยังสามารถทำอุณหภูมิลดลงไปได้มากถึง -30˚ อีกด้วย
เราพัฒนาระบบ No Frost ขึ้นมาจากปัญหาของลูกค้าธุรกิจที่ต้องเปิดตู้แช่แข็งบ่อยมากๆ
และพนักงานต้องใช้เวลาในการ “เลาะน้ำแข็งออก” เพื่อเติมสินค้าเข้าไปในตู้
ต้องบอกเลยว่าตู้ No Frost ตอบโจทย์ในการใช้งานของลูกค้าในทุกๆแง่อย่างชัดเจน
– stainless grade 304 หรือเรียกง่ายๆว่า “food grade” ซึ่งจะเป็นวัสดุที่ไม่ดูดซึมสาร กลิ่น และรสชาติของอาหาร
ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่เป็นสนิม นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติไม่ให้แบคทีเรียมาเกาะอีกด้วย
FRESHER ใช้ stainless 304 “ทั้งตัว” และหนากว่ายี่ห้อทั่วไป ไปจนถึงถาดใส่อาหาร ไม่ว่าลูกค้าจะใช้เพื่อแช่สินค้าเฉยๆ หรือทำอาหารบน counter
ก็ไม่ต้องกังวล วัสดุนี้ยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและนำไปรีไซเคิลได้ด้วยอีกนะ!
(-8˚) คืออุณหภูมิที่ถูกต้องในการทำให้เครื่องดื่มเย็นเป็นวุ้น ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง แต่ปัญหาใหญ่จริงๆของการแช่สินค้าให้เย็น เป็นวุ้นคือ “ขวดแตก” จากการที่ขวดกระทบกันจนแก๊สในขวดทะลักออกมา
FRESHER จึงคิดค้นตะกร้าแบบพิเศษ สามารถบรรจุขวดได้อย่างเต็มพื้นที่ โดยที่ขวดไม่ชนกัน และหยิบออกมาใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ต้องตั้งห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร รวมถึงไม่ควรตั้งใกล้เตาแก๊ส ตากแดด หรือพื้นที่ที่เกิดความร้อนได้ง่าย เนื่องจากว่า
ตู้แช่ต้องใช้พื้นที่ในการระบายความร้อนเพื่อไม่ให้ตู้แช่ทำงานหนักจนเกินไป
ควรเสียบปลั๊กและเปิดตู้แช่เพื่อทำความเย็น 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยก่อนแช่สินค้า
และไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วงร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
ระวังพื้นที่ที่มีความชื้นหรือน้ำท่วมขังบริเวณปลั๊กไฟ เพื่อป้องกันอันตราย
แต่ในกรณีที่เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด ตู้แช่เครื่องดื่มของ FRESHER รุ่นใหม่มีระบบป้องกันไฟตก! ไฟกระชาก!
เครื่องจะสำรองไฟบางส่วนเอาไว้เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย
ตู้แช่และตู้เย็นบ้านต่างมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีหน้าที่ในการเก็บรักษาอาหารหรือของสดให้คงสภาพอยู่ได้นานขึ้น มาดูความแตกต่างและข้อดีของตู้แช่เมื่อเทียบกับตู้เย็นบ้าน:
อุณหภูมิในการเก็บรักษา
พื้นที่เก็บของ
ประสิทธิภาพการทำความเย็น
การใช้งานเฉพาะเจาะจง
การประหยัดพลังงาน
สรุปคือ ตู้แช่จะดีกว่าในเรื่องของการเก็บอาหารในระยะยาวและปริมาณมาก ส่วนตู้เย็นบ้านจะเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไปมากกว่า
โปรดกรอกข้อมูลของท่านลงในแบบฟอร์มด้านล่าง เราจะติดต่อกลับไป